วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อินเทอร์เน็ตและอิเล็กทรอนิกส์

ความเป็นมาของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
   - พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) หรืออีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) เริ่มขึ้นเมื่อประมาณต้นทศวรรษที่ 1970โดยเริ่มจากการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงาย และในช่วงเริ่มต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น บริษัทเล็กๆ มีจำนวนไม่มากนัก ต่อมาเมื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange-EDI)ได้แพร่หลายขึ้น ประกอบกับคอมพิวเตอร์พีซีได้มีการขยายเพิ่มอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ตและเว็บ ทำให้หน่วยงานและบุคคลต่าง ๆ ได้ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นในปัจจุบันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ครอบคลุมธุรกรรมหลายประเภท เช่น การโฆษณา การซื้อขายสินค้า การซื้อหุ้น การทำงาน การประมูล และการให้บริการลูกค้า

ความหมาย
  - พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ 
แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยทางการบริหาร
โครงสร้างพื้นฐาน 

ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products) 
ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to B
โมเดลของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to B มีหลายแบบ ที่สำคัญได้แก่ Seller oriented marketplace, และ Intermedialy-Oriented marketplace (Turban et al., 2000)
Seller oriented marketplace
ตามโมเดลนี้องค์การจะพยายามขายสินค้า/บริการของตนให้แก่องค์การอื่นผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 
Buyer-Oriented Marketplace
โมเดลนี้มีจุดมุ่งหมายในการลดต้นทุนของสินค้าที่จะซื้อ หรือในตลาดที่มีการประมูลจากนั้นธุรกิจก็จะเสนอประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยผ่านไปยังเครือข่ายอินทราเน็ตของผู้ซื้อประกาศผู้ที่สามารถประมูลไปได้ 
Intermedialy-Oriented marketplace 
โมเดลนี้เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยทำหน้าที่ในการสร้างตลาดขึ้นมา 

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B to C
แอพพลิเคชั่นของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แบบ B to C
ร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Retailing)
การโฆษณา
แคตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic catalog)
ธนาคารไซเบอร์ (Cyberbanking) หรือ Electronic banking หรือ Virtual bangking
ตลาดแรงงานออนไลน์ (Online job market)
การท่องเที่ยว 
อสังหาริมทรัพย์
การประมูล (Auctions)

ขั้นตอนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต
ขั้นตอนของการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตแบบ B to B มี 5 ขั้นตอน คือ 
การค้นหาข้อมูล
การเลือกและการต่อรอง
การซื้อสินค้า/บริการทางอินเทอร์เน็ต
การจัดส่งสินค้า/บริการ
การบริการหลังการขาย

พฤติกรรมของลูกค้า
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีลูกค้าอยู่ 2 ประเภท คือ 
ตัวบุคคล 
องค์การ 

การวิจัยทางการตลาด
การวิจัยทางการตลาดที่ต้องการหาแรงจูงในที่ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้า/บริการบนอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญมากขึ้นโมเดลในการทำวิจัยเพื่ออธิบายพฤติกรรมของลูกค้า

โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิค (Technical Infrastructure)
การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์จำนวนมาก องค์ประกอบที่สำคัญ คือ เครือข่าย เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web server) การสนับสนุนเว็บเซิร์ฟเวอร์ และซอฟท์แวร์ที่ใช้ทำธุรกรรม และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

ระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์
เช็คอิเล็กทรอนิกส์ (E-checks)
เครดิตการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic credit cards)
การจ่ายเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic cash หรือ Digital cash หรือ e-money)
การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer-EFT)

การสนับสนุนการบริการอื่น ๆ ให้ลูกค้า 
มีเครื่องมือหลายประเภทที่ให้บริการลูกค้าออนไลน์ได้ เช่น 
เว็บเพจส่วนตัว (Personalized web Page) 
ห้องสนทนา (Chat rooms)
อีเมล์ (E-mail)
FAQs (Frequent Answers and Questions) 
ความสามารถในการติดตามงาน (Tracking Capabilities)
ศูนย์โทรศัพท์โดยใช้เว็บ (Web-based call centers) 

การรักษาความปลอดภัย
ความต้องการการรักษาความปลอดภัย (security requirements)
ความสามารถในการระบุตัวตนได้ (Anthentication)
ความเป็นหนึ่งเดียวของข้อมูล (Integriry)
ความไม่สามารถปฏิเสธได้ (Non-repudiation)
สิทธิส่วนบุคคล (Privacy)
ความปลอดภัย (Safety) 

วิธีการรักษาความปลอดภัย
การใช้รหัส (Encryption)
ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
โปรโตคอล (Protocols)

ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีทั้งในระดับบุคคล องค์การ สังคม และระบบเศรษฐกิจ
ประโยชน์ต่อบุคคล 
ประโยชน์ต่อองค์การ/ธุรกิจ
ประโยชน์ต่อสังคม
ประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ

ข้อจำกัดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดด้านเทคนิค
ข้อจำกัดด้านกฎหมาย
ข้อจำกัดด้ายเศรษฐกิจ
ข้อจำกัดด้านอื่น ๆ 


http://elearning.northcm.ac.th/mis/content.asp?ContentID=85&LessonID=13

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น